วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

31 พฤษภาคม 2550 วันก่อตั้งชมรมสามัญชนคนรักษ์ป่าโตนหญ้าปล้อง

กิจกรรมบนเวที
บอร์ดประชาสัมพันธ์
ผู้มาร่วมกิจกรรม

ประธานชมรมสามัญชนคนรักษ์ป่า ลำนำบอกเรื่องราวของกิจกรรมต่างๆ
...วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 เป็นวันที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้ประชาชนเเละเยาวชนที่มีอุดมการณ์รักบ้านเกิด ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดี ๆที่มีคุณค่า ให้เกิดแก่ถิ่นฐาน โดยการตั้งชมรมสามัญชนคนรักษ์ป่าขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเเละปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตัวเอง เดิมทีสามัญชนคนรักษ์ป่าได้ทำกิจกรรมด้านการอนุรักษ์มานานแล้ว เเต่ทำแบบไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ในวันนี้ได้รวมตัวกันอย่างชัดเจนโดยจะใช้เวลาว่างมาทำกิจกรรมร่วมกัน ตามกำลังและความสามารถของเเต่ละบุคคล การรวมตัวกันนี้ไม่ใช่เเต่เพียงการขับเคลื่อนด้านการอนุรักษ์เพียงอย่างเดียวแต่ยังควบคลุมถึงการสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมด้วย
...ด้วยเหตุที่ต้องรวมตัวกันก็เพราะ มองเห็นสภาพความเปลี่ยนแปลงของสิ่งใกล้ตัวรอบข้างที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนตัวก็คลุกคลีอยู่กับป่าเขามาแต่เด็กๆ ตอนเล็กๆเดินไปเที่ยวโตนหญ้าปล้องกันทีละหลายคน พาหนังสติกไปยิงนก พาเบ็ดไปตกปลา หนทางแสนจะลำบาก เส้นทางรก มีไม้ใหญ่เต็มไปหมด น้ำในโตนหญ้าปล้องมากแถมยังลึกด้วย
... กระทั่งวันเวลาผ่านไป ภาพความทรงจำวัยเด็กยังติดตาอยู่แต่ความเป็นจริงได้เปลี่ยนแปลงไป ถนนถูกตัดผ่านป่า ง่ายเเก่การตัดไม้ ส่งผลให้บริมาณน้ำลดลง ผู้คนเข้ามาเที่ยวมาก เกิดขยะในลำคลอง แถมยังเกิดอาชญากรรมขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า เหตุการดังกล่าวไม่ค่อยได้รับการดูแลทำให้สภาพของ ป่าโตนหญ้าปล้องเสื่อมโทรมเร็ว
...เดิมทีชุมชนคนบ้านพรุเตาะอยู่กันอย่างพอเพียง เรียบง่าย อาศัยแหล่งทรัพยากรที่มีอยู่ในป่ามาดำรงชีพ เช่น การล่าสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ ของป่า หน่อไม่ ผลไม้จากป่าจากสวน ปัจจุบันพื้นที่ป่าลดลง ย่อมส่งผลให้บริมาณน้ำและสัตว์ป่าลดลง จิตสำนึกของคนต่ำ ความโลภครอบงำ การดำรงชีวิตของคนก็เปลี่ยนมากอบโกยแสวงหาเอาจากธรรมชาติแต่ฝ่ายเดียว โดยมิคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น
...จะอีกสักกี่วัน กี่เดิอน หรือกี่ปี ที่มนุษย์เราจะรู้จักคำว่า " พอ"
ฤาษี แกบอกว่า " น้ำตาไหลรินหมดสิ้นแล้วเหอพี่น้อง ภูผาหญ้าปล้องน้ำเคยไหลนองเหือดหาย
ทั้งสรรพสัตว์ที่เคยเห็นอยู่มากมาย ไม่มีเหลือให้ลูกหลานหญิงชายได้แล
...มีเลื่อยไฟฟ้าสนั่นก้องป่าทุกวัน ทั้งเสียงรถดันพากันพังขั้นบันได
มาเปลี่ยนผืนป่าเป็นยางพาราฉับไว ไม่สนใจใครขอให้ฉันได้ทำกิน
.....เศรษฐกิจพอเพียงแต่คนไม่รู้จักพอ ลืมสิ้นแล้วหนอคำว่าพอเพียง
หยุดเถิดพ่อจ๋าโปรดได้ฟังเสียง หนูส่งสำเนียงเป็นเสียงดนตรี
คืนวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร เอาน้ำที่ไหนให้ลูกหลานแล
พ่อเหอแม่เหอหยุดเปลี่ยนเเปร เหลือเอาไว้ให้ลูกหลานเเล...นะพ่อแม่นะ
...น้ำตาไหลนองทุกข์ทนหม่นหมองภูผา สิ้นแล้วชายคาฝูงนกฝูงกาพึ่งพิง
ระบบนิเวศสูญหายมลายหมดสิ้น เพียงเพื่อทำกินทำลายหมดสิ้นแล้ว...ภูผาหญ้าปล้อง
(สามัญชนคนรักษ์ป่า)


1 ความคิดเห็น: